มีเหตุการณ์กรณีที่ชายหนุ่มได้มาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเรื่องราวว่าเขาโดนสาวน่าจะเป็นมิจฉาชีพมา หนุ่มถูกสาวหลอกให้รักแล้วเชิดรถหนีหาย ซึ่งผู้เสียหายตอนนี้มีจำนวนอยู่ 2 ราย โดยใช้คนแรกบอกว่าแสดงพบกับหญิงสาวคนนี้ในเดือนสิงหาคมซึ่งที่จริงแล้วใช้คนดังกล่าวมีภรรยาอยู่แล้ว

แต่เนื่องจากกำลังมีปัญหาทะเลาะกับภรรยาจึงได้ตัดสินใจมาคุยกับสาวคนดังกล่าวโดยรู้จักกันผ่านทางแอพพลิเคชั่นแอพนึงทางโทรศัพท์มือถือ หลังจากนั้นเข้าได้เธอก็ทำการแลกไลน์และติดต่อพูดคุยกันมาตลอดได้ยินสาวบอกกับเขาว่าเธอทำงานมีอาชีพเป็นไกด์สถานที่ทำงานอยู่แถวสุขุมวิทสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ ทำให้เขานัดกับหญิงสาวเพื่อให้มาสอนภาษาญี่ปุ่นเคยเจอกันครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่บริเวณสถานีหัวลำโพง

หลังจากนั้นก็พากันไปที่ห้องพักของฝ่ายชายและไม่มีอะไรกัน ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นเขาทั้งสองคนก็นัดพบกันเป็นประจำและฝ่ายชายมักจะเห็นว่าฝ่ายหญิงนั่งรถเมล์มาหาเขาเขาจึงได้สอบถามฝ่ายหญิงว่าไม่มีรถใช้หรือไงซึ่งฝ่ายหญิงก็บอกว่าไม่มีกี่ครั้งก็ยังบอกว่าช่วงนี้ค่อนข้างลำบากเพราะว่าต้องเดินทางไปเยี่ยมแม่อยู่บ่อยๆเนื่องจากแม่ป่วยเป็นโรคเลือดหัวใจอุดตันทำให้ตัวเขาเอง

สงสารฝ่ายหญิงจึงได้เอารถของตนเองให้ฝ่ายหญิงยืมไปขับใช้ ซึ่งช่วงแรกๆไปก็จะยืมไปแล้วก็จะนำกลับมาคืนแต่หลังๆมาฝ่ายหญิงขอเอารถไปใช้งานเลยบอกว่าจะทำการผ่อนให้ซึ่งฝ่ายชายก็เป็นผู้ออกเงินในการผ่อนโดยให้ทำการโอนเงินไปให้ฝ่ายหญิงแล้วฝ่ายหญิงจะไปจ่ายเงินให้เอง สงสัยใช้ได้โอนเงินให้กับผู้หญิงทุกเดือนผลปรากฏว่าฝ่ายหญิงไม่เคยนำเงินดังกล่าวไปจ่ายค่าผ่อนรถเลยจนมาถึงช่วงเดือนมกราคมฝ่ายชายจึงรู้เรื่องแล้ว

จึงเกิดการทะเลาะกันขึ้นฝ่ายชายจึงได้ขอรถคืน แต่ปรากฏว่าหลังจากที่พูดขอรถคืนแล้วฝ่ายหญิงก็หายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้อีกเลยจึงไปสืบทราบมาภายหลังว่าฝ่ายหญิงมีสามีอยู่แล้วและเธอนำรถของเขาไปใช้งานอยู่ที่ปราจีนบุรีกับสามี และเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับเขาคนเดียวเท่านั้น

เมื่อทำการแจ้งความที่สถานีตำรวจจึงได้ทราบว่ามีคนมาแจ้งความในลักษณะเดียวกันนี้และเมื่อสืบไปสืบมาจึงพบว่าผู้หญิงได้ก่อเหตุกับผู้ชายคนอื่นอีกซึ่งไม่ใช่กับตนแค่คนเดียวซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามตัวผู้หญิงคนดังกล่าวมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

สนับสนุนโดย  คาสิโน ปอยเปต