มีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการเข้าไปโพสต์ข้อความใน Social Media ซึ่งข้อความนี้มีการแชร์กันมากในวันที่ 25 เดือนธันวาคมปีพศ 2563 โดยข้อความ ที่หญิงสาวคนดังกล่าวได้มีการโพสต์ลงไปนั้นเป็นการบอกเล่าประสบการณ์ของเธอที่ได้ขึ้นรถแท็กซี่ในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโคโรนาโดยระบุว่าตัวเธอเองนั้นเป็นบุคคลซึ่งถูกกักตัวในช่วงเฝ้าระวังหรือที่เรียกว่าเธอเป็นบุคคลที่อยู่ในกลุ่มความเสี่ยงจึงจำเป็นต้องถูกกักตัวประมาณ 14 วัน
ได้หลังจากที่มีการปรับตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วและพบว่าเธอไม่มีเชื้อไวรัสโคโรน่าก็ได้รับการปล่อยตัวให้เดินทางกลับบ้านได้ซึ่งในขณะนั้นเธอถูกกักตัวอยู่ที่บริเวณเขตพื้นที่สุขุมวิท หลังจากนั้นเธอได้มีการเรียกรถแท็กซี่เพื่อที่จะเดินทางไปที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่เนื่องจากว่าเธอจะเดินทางกลับต่างจังหวัดที่อยู่ในเขตภาคใต้
แต่หลังจากที่แท็กซี่คันดังกล่าวรักเธอขึ้นรถก็มีการเรียกเก็บเงินเธอเป็นจำนวนเงิน 800 บาท พร้อมทั้งบอกเหตุผลกับเธอว่าปัจจุบันนี้รถแท็กซี่จะไม่มีการกดมิเตอร์แล้วและเงิน 800 บาทนี้ก็เป็นเงินมาตรฐานปกติที่มีการเรียกเก็บกันเนื่องจากว่าการรับผู้โดยสารในช่วงนี้เป็นช่วงที่มีความเสี่ยงสูงมากที่คนขับรถแท็กซี่อาจจะติดเชื้อไวรัสโควิคจากผู้โดยสารได้ดังนั้นจึงต้องมีการเรียกเก็บค่าความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นมา
อีกทั้งยังบอกด้วยว่าปัจจุบันนี้แท็กซี่มีคนขับน้อยมากเพราะคนขับรถแท็กซี่ต่างก็พากันหวาดกลัวว่าจะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าจากลูกค้า และที่สำคัญหญิงสาวคนดังกล่าวยังเพิ่งถูกกับตัวและเพิ่งถูกปล่อยตัวมาดังนั้นจึงมีโอกาสเสี่ยงสูงมากที่จะมีเชื้อไวรัสโคโรน่าและทำให้คนขับรถแท็กซี่ติดเชื้อไวรัสได้ที่สำคัญเส้นทางที่ลูกค้าหญิงคนดังกล่าวจะเดินทางไปนั้นอยู่ใกล้กับจังหวัดที่กำลังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสูงนั่นก็คือจังหวัดนครปฐมเพราะต้องเดินทางไปถึงบริเวณสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ยิ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงมากที่จะทำให้แท็กซี่ที่เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวนั้นติดเชื้อไวรัสจึงเป็นราคา 800 บาทที่สมเหตุสมผล
อย่างไรก็ตามหญิงสาวคนดังกล่าวได้มีการจ่ายเงิน 800 บาทและเดินทางไปถึงสถานีขนส่งสายใต้ใหม่แต่หลังจากนั้นเธอก็ได้มีการโพสต์เรื่องราวนี้ผ่านใน Social Media และเมื่อมีการแชร์กันออกไปหลายคนก็เข้ามาพูดเกี่ยวกับแท็กซี่คนดังกล่าวว่าเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อเพื่อนร่วมอาชีพและอาจจะทำให้คนขับรถแท็กซี่คนอื่นๆได้รับความเดือดร้อนเพราะประชาชนก็จะไม่พากันขึ้นรถแท็กซี่ที่มีการเรียกเก็บเงินสูงมากเพราะถือว่าเป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้โดยสารนั่นเอง
และแน่นอนว่าเมื่อเรื่องราวนี้มีการแชร์กันออกไปเป็นวงกว้างทำให้เรื่องนี้มีการส่งไปถึงกรมการขนส่งทางบกเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งต้องรอว่าทางด้านกรมการขนส่งทางบกจะออกมาชี้แจงเรื่องนี้อย่างไรและจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาแท็กซี่ไม่กดมิเตอร์นี้อย่างไรได้บ้าง
สนับสนุนโดย. ufabet
