ลูกชายขโมยเงินแม่ 100,000  ไปโปรยทาน กลางตลาด อ้างทำบุญให้พ่อ 

ลูกชายขโมยเงินแม่ 100,000  ไปโปรยทาน กลางตลาด อ้างทำบุญให้พ่อ 

          ลูกชายขโมยเงินแม่ 100,000  ไปโปรยทาน เมื่อวันที่ 8 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565 ได้มีคุณยายวัย 70 ปีท่านหนึ่งชื่อว่านางสมหวังเดินทางไปที่สถานีตำรวจสภสตึกจังหวัดบุรีรัมย์

เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปช่วยเหลือโดยนางสมหวังได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลูกชายของเธออายุ 39 ปีได้มีการขโมยบัตร ATM ของเธอไปหลังจากนั้นก็นำบัตร ATM ไปทำการกดเงินออกมาเป็นจำนวน 1 แสนบาท  เมื่อมีการกดเงินสดออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วลูกชายของเธอได้นำเงิน 100000 บาทนั้นไปทำการโปรยทานภายในบริเวณตลาดสดเทศบาลสตึกซึ่งมีคนเข้ามาเก็บธนบัตรที่ลูกชายของเธอนำไปโปรยทานเป็นจำนวนมากทำให้เงินในบัญชีของเธอหายหมด

           อย่างไรก็ตามนางสมหวังได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าหลังจากที่ลูกชายของเธอขโมย ATM ของเธอไปกดแล้วนำเงินออกไปโปรยทานที่ตลาดเสร็จเรียบร้อยแล้วลูกชายของเธอก็หนีหายไปซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการกลับมาที่บ้านเธอไม่สามารถติดต่อลูกชายได้เจอต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนำเงินสดที่ลูกชายของเธอไปโปรยทานนั้นกลับคืนมาให้เธอเพราะมันเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้ 

            อย่างไรก็ตามหลังจากที่นางสมหวังเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้วเมื่อเดินทางกลับมาถึงที่บ้านก็พบลูกชายรออยู่โดยลูกชายได้เข้ามาขอโทษและกราบสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปและให้เหตุผลกับนางสมหวังว่าที่ขโมยเงินนางสมหวังไปนั้นเพราะต้องการที่จะนำเงินไปทำบุญให้กับพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว

โดยมีการนำบัตร ATM ของนางสมหวังไปทำการกดเงินออกมาทั้งหมด 109,000 บาทซึ่งมีการนำเงินบางส่วนนั้นไปทำการโปรยทานที่ตลาดสดเทศบาลสตึกส่วนเงินอีกบางส่วนนั้นนำไปโปรยบริเวณที่สี่แยกไฟแดงอย่างไรก็ตามลูกชายวัย 39 ปีของนางสมหวังยืนยันว่ารู้สึกผิดกับการกระทำของตนเองมากและขอยอมรับผิดพร้อมทั้งสัญญาว่าต่อไปนี้จะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก 

          สำหรับในเรื่องของคดีความทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประกาศออกมาให้ประชาชนที่มีการเก็บเงินของคุณยายสมหวังไปให้นำเงินมาคืนทั้งหมดเนื่องจากว่าลูกชายของยายสมหวังเป็นคนขโมย ATM ไปและยายสมหวังไม่ได้มีการยินยอมที่จะมีการนำเงินไปโปรยเพื่อทำการแจกทานดังนั้นถือว่าลูกชายของนายสมหวังนั้นขโมยทรัพย์สินของผู้อื่นไปซึ่งถือว่ามีความผิดทางกฎหมายดังนั้นใครที่เก็บเงินที่มีการโปรยทานไปแล้วนำไปใช้จ่ายก็จะถือว่าเป็นการรับของโจรซึ่งสามารถถูกดำเนินคดีได้เช่นเดียวกัน

       เบื้องต้นหลังจากที่มีการประกาศออกไปมีคนในตลาดที่เก็บเงินไปนำเงินมาคืนคนละ 1000 บาทจำนวน 2 คนแล้วซึ่งคาดว่าถ้าหากว่ายังไม่มีใครนำเงินมาคืนเพิ่มเติมอีกเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการเปิดคลิปกล้องวงจรปิดภายในตลาดเพื่อทำการตรวจสอบหน้าตาของคนที่เก็บเงินไปและจะดำเนินคดีกับผู้ที่เก็บเงินทั้งหมด 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    ufabet

ติดต่อเรา ข่าวเด่นประเด็นร้อน

info@sametiffany.com