จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปยัง หมู่บ้านกกกอก จังหวัดมุกดาหารเพื่อทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาคดีการฆาตกรรมเด็กหญิงวัย 3 ขวบที่ชื่อว่าน้องชมพู่โดยฆาตกรที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการออกหมายจับนั้นเป็นคุณลุงของผู้เสียชีวิต  อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปที่หมู่บ้านนี้ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันที่ 1 เดือน มิถุนายน ปีพ.ศ. 2564 โดยหวังว่าจะนำหมายจับไปควบคุมตัว.ลุงพลเพื่อมาดำเนินคดีที่สถานีตำรวจ 

        อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ไม่เป็นตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดเพราะเมื่อไปถึงและได้มีการเรียกปรากฏว่าลุงพลไม่ได้พักอยู่ในบ้านพักของตนเองซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ไม่สามารถตามตัว ลุงพลได้ว่าหนีไปกบดานอยู่ที่ไหน  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทำได้เพียงแค่ควบคุมตัวยูทูบเวอร์ซึ่งเป็นคนสนิทของลุงพลมาให้ปากคำที่สถานีตำรวจเพียงเท่านั้น

         อย่างไรก็ตามแต่หลายคนได้ออกมาวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าลุงพลอาจจะพยายามหลบหนีไปที่อื่นแล้วซึ่งแน่นอนว่าหลายคนเริ่มเชื่อว่าลุงพลนั้นอาจจะเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมเด็กหญิงชมพู่ก็ได้ถึงได้ทำการหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจและไม่ยอมสู้คดี  ซึ่งทางด้านครอบครัวของน้องชมพู่เองไม่ว่าจะเป็นคุณแม่หรือคุณพ่อของน้องก็พยายามที่จะรอดูการจับกุมของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ฆ่าลูกสาวของตนเองโดยครอบครัวนี้ต้องรอนานถึง 1 ปีกว่ากว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถออกหมายจับคนร้ายได้ 

         อย่างไรก็ตามในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าลุงพลจะหนีไปกบดานอยู่ที่ไหนอยู่นั้นปรากฏว่าเมื่อวันที่ 2 เดือนมิถุนายนปีพศ 2564   ช่วงเวลาสายๆได้มีทนายความของ ลุงพลซึ่งก็คือทนายสิทธา  เบี้ยบังเกิด  เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อขอเข้าพบกับพลตํารวจเอกสุวัฒน์   โดยระบุว่าการเดินทางมาครั้งนี้นั้นได้มีการนัดกับลุงพลเอาไว้ซึ่งรวมพลนั้นจะเดินทางมามอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยตนเอง

         อย่างไรก็ตามระหว่างที่มีการพูดคุยกับทางนักข่าวอยู่นั้นปรากฏว่าลุงพลก็เดินทางมาถึงที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมกับภรรยาของลุงพลนั่นก็คือป้าแต๋นโดยทั้งคู่นั้นได้มีการเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจทางประตูด้านหลังของสำนักงานหลังจากนั้นก็เข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอสู้คดีในครั้งนี้

         ทางด้านทนายความของลุงพลยืนยันว่าลุงพลไม่ได้มีความคิดที่จะหลบหนีการจับกุมแต่ลงทุนต้องการที่จะขอมอบตัวและสู้คดีเพียงแต่ต้องการมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและไม่ต้องการที่จะมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดมุกดาหารถึงแม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นที่นั่นก็ตามเพราะว่าสุดท้ายแล้วผู้ที่จะสามารถตัดสินคดีได้ก็คือพลตํารวจเอกสุวัฒน์ซึ่งอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้นเอง

         อย่างไรก็ตามคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญและใช้ระยะเวลาในการจับตัวคนร้ายนานมากซึ่งเราคงต้องรอติดตามกันว่าสุดท้ายแล้วควรจะถูกดำเนินคดีกี่ข้อหาและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถดำเนินคดีกับลุงพลได้จริงหรือไม่ 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    เซ็กซี่ บาคาร่าออนไลน์