ลูกฆ่าแม่ตัวเองยัดตู้เย็น

ลูกฆ่าแม่ตัวเองยัดตู้เย็น

 

          คงไม่มีใครไม่รู้ข่าวลูกชายวัย 20 ปีก่อเหตุ ลูกฆ่าแม่ตัวเองยัดตู้เย็น ภายในบ้านและอำพรางศพด้วยกันตัดชิ้นส่วนแช่ไว้ในตู้เย็นและบางส่วนหั่นเป็นชิ้นๆทิ้งลงชักโขรก ซึ่งข่าวนี้เป็นข่าวดังครึกโครมมาหลายวันแล้ว

โดยผู้ก่อเหตุเมื่อฆ่าแม่เสร็จแล้วก็ยังอาศัยอยู่ในบ้านไม่ได้หนีไปไหน จนเพื่อนๆของแม่มาตามหาแม่ที่บ้าน พยายามเข้ามาค้นในบ้านเพราะเห็นรถยนต์ของผู้ตายจอดอยู่ซึ่งมั่นใจว่าผู้ตายไม่ได้ไปไหนแน่ๆ และก็จริงตามคาดเมื่อเพื่อนๆของผู้ตายพบอวัยวะของผู้ตายในตู้เย็น ซึ่งในขณะเดียวกันลูกชายคนที่ก่อเหตุฆ่าแม่ตัวเองก็ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

          จากข่าวนี้เป็นข่าวที่สะเทือนขวัญและสะเทือนใจใครหลายๆคนมาก โดยเฉพาะคนที่เป็นแม่ทั้งหลาย ที่เฝ้าเลี้ยงดูลูกอย่างดีตั้งแต่อยู่ในท้อง แต่สุดท้ายต้องมาตายด้วยฝีมือของลูกตัวเอง ตามกระแสข่าว มีหลายคนที่ไม่เชื่อว่าลูกชายจะฆ่าแม่ตัวเองลง หรือไม่น่าจะลงมือฆ่าแม่ตัวเองคนเดียว รวมถึงข้อมูลผู้ก่อเหตุถนัดมือซ้ายถนัดมือขวา แต่ ณ ปัจจุบันนี้ ตำรวจที่เป็นเจ้าของคดีได้ยืนยันออกมาแล้วว่าผู้ก่อเหตุเป็นลูกชายจริงๆ โดยมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด

          จากการติดตามข่าวดูเหมือนว่าลูกชายที่เป็นผู้ก่อเหตุจะมีปัญหาทางจิต ที่อยู่ระหว่างการรักษาตัว จากการติดตามข่าวมาได้สักพักจะเห็นได้ว่ามีหลายข่าวมากที่ผู้ก่อเหตุเป็นคนใกล้ตัวที่เป็นฆาตกรที่ฆ่ากันเอง และที่สำคัญมักระบุว่าเป็นผู้ป่วยทางจิตที่อยู่ระหว่างการรักษาแต่ลืมกินยาหรือหยุดยา ทำให้อาการกำเริบ จนกระทั่ง ลูกฆ่าแม่ตัวเองยัดตู้เย็น

สำหรับปัญหาแบบนี้ มีมาไม่เว้นแต่ละวัน เมื่อไหร่ที่จะมีมาตรการดูแลผู้ป่วยทางจิตที่ดีกว่านี้ เราควรแยกผู้ป่วยเหล่านี้ ออกไปรักษา ณ โรงพยาบาลที่เขาเปิดรับรักษาได้สักทีได้หรือยัง ที่ยังมีข่าวฆ่ากันตายอยู่ทุกวันนี้เพราะคนเรามีอาการทางจิตกันเพิ่มมากขึ้น อาจจะมาจากความเครียดทั้งปัญหาการเรียน การทำงาน คนบางคนไม่รู้ตัวว่าตัวเองเครียดจนมีอาการทางจิต มารู้ตัวเมื่ออาการแสดงออกด้วยการฆ่าคนอื่น 

ปัญหานี้อาจยกระดับถึงขั้นฆ่าตัวเองตายด้วย ซึ่งช่วงนี้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ การเงินมีผลทำให้คนเป็นโรคเครียดกันเยอะ ดังนั้น เราควรสำรวจตัวเอง หรือคนในครอบครัว เพื่อนฝูงและคนใกล้ตัวของเราว่ามีใครมีอาการที่ผิดปกติไปจากเดิมบ้าง เช่นหงุดหงิดง่าย โวยวายง่าย หรือมีอาการซึมเศร้า ไม่สนใจเข้ากลุ่มมาคุยกันเหมือนเมื่อก่อน พยายามแยกตัวออกไปอยู่คนเดียว หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบพาเขาไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการทางจิต จะได้รีบรักษาทัน จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์เหมือนที่เป็นข่าวอย่าง ณ ปัจจุบันนี้ 

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  Sexy Gaming

ติดต่อเรา ข่าวเด่นประเด็นร้อน

info@sametiffany.com