ที่จังหวัดตราดเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับการติดต่อจากชาวบ้านให้มาช่วยเหลือชายชราวัย 64 ปีเนื่องจากเขากินยาคลายเครียดไป 1 กำมือจะมีอาการชักน้ำลายฟูมปากเกรงว่าจะเป็นอันตรายต้องการให้ประสานงานพาไปโรงพยาบาลโดยทางญาติของชายชราได้พากันอุ้มร่างของชายชราหน่วยกู้ภัยที่บริเวณศาลาหน้าวัดกู้ภัยเดินทางไปถึงก็พบว่ามีคนเป็นจำนวนมากเงินช่วยเหลือชายชราวัย 64 ปี

ที่กินยาเกินขนาดเข้าไปแต่ว่าชายชราคนดังกล่าวไม่ยอมให้ความร่วมมือที่จะให้กู้ภัยหรือแม้แต่ใครช่วยเหลือโดยเขายังคงตามยาไว้อยู่ในมือและหวังจะกินต่อเลยบ่นอย่างเดียวว่าตัวเองนั้นอยากตายซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 เดือนพฤษภาคมพ.ศ 2553 เวลาที่เกิดเหตุนั้นคือช่วงเวลาประมาณ 21:30 น

  โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ญาติได้มีการเล่าให้ทางกู้ภัยฟังว่าสาเหตุที่ชายชราวัย 64 ปีนี้ต้องกินยาฆ่าตัวตายนั่นก็เพราะว่าเกิดอาการน้อยใจในปรัชญาของเขาโดยเขาคิดว่าภรรยาของเขาคงไม่รักเขาแล้วเพราะปล่อยให้เขาอยู่บ้านคนเดียวซึ่งภรรยาของเขาต้องออกไปทำงานทุกวันโดยวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ก็ไม่หยุดเพราะต้องไปทำงานหาเงินและยังมีการทำโอทีต่อทำให้ภรรยาของเขากลับบ้านดึกทุกวันเป็นสาเหตุให้ชายชราวัย 64 ปี

ต้องนั่งกินข้าวอยู่คนเดียวและเขาก็เกิดอาการเหงาและเกิดอาการน้อยใจที่ภรรยาไม่สนใจจึงได้ตัดสินใจที่จะคิดสั้นฆ่าตัวตายระหว่างที่กู้ภัยพยายามจะช่วยเหลือชายชรานั้นทางเจ้าอาวาสวัดและชาวบ้านต่างก็ช่วยกันแก้กล่อมให้เธอชรายอมไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในที่สุดชราก็ยินยอมที่จะเดินทางไปที่โรงพยาบาลโดยทางกู้ภัยได้นำส่งตัวไปที่โรงพยาบาลพระเจ้าตากสินมหาราช

      ในช่วงนี้ที่ทุกคนต่างก็ต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวบางครั้งอาจจะทำให้ละเลยคนในครอบครัวไปบ้างซึ่งทุกคนในครอบครัวอาจจะต้องมีการพูดคุยให้เข้าใจตรงกันถึงความสำคัญในครั้งนี้ว่าเหตุผลที่ต้องทำงานหนักนั้นเกิดเพราะอะไรเชื่อว่าไม่ใช่เฉพาะครอบครัวของคุณตาวัย 64 ปีเท่านั้นที่มีปัญหาเรื่องของคนในครอบครัวกลับบ้านดึกแล้ว

ไม่มีเวลาให้กันแต่หลายๆครอบครัวก็น่าจะมีอาการแบบนี้เหมือนกันเพราะทุกวันนี้ทุกคนต่างก็แย่งกันพี่จะทำงานหาเงินไม่มีใครอยากที่จะตกงานในช่วงนี้เพราะเศรษฐกิจกำลังไม่ดีเพราะฉะนั้นหากมีงานได้ทุกคนก็ต้องรีบทำงานเพื่อหาเงินมาเอาไว้เป็นรายจ่ายให้กับครอบครัวนั้นเอง

สนับสนุนโดย  เปิดบัญชีคาสิโนขั้นต่ำ100